เช้าวันจันทร์ทำงานเมื่อไร แล้วหัวใจห่อเหี่ยวทุกที แถมต้องคอยนับถอยหลังทีละวัน ตั้งหน้าตั้งตารอวันศุกร์อย่างใจจดใจจ่อ ยิ่งพนักงานออฟฟิศอย่างเราๆ ด้วยแล้ว การอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ตลอดทั้งวัน ใครจะไม่รู้สึกเบื่อล่ะ
แต่ออฟฟิศของแสนสิริ จะเปลี่ยนทุกเช้าของพนักงานให้สดใส และกระตุ้นให้อยากรีบตื่น ลุกออกจากเตียง แล้วพุ่งตัวมาทำงาน
ด้วยความที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างบ้าน คอนโด และทาวน์โฮมคุณภาพดี ให้ลูกบ้านได้แฮปปี้กันไปไม่รู้กี่โครงการแล้ว แต่แสนสิริก็ไม่ลืมว่า หัวใจสำคัญของการสร้างคุณภาพชีวิตที่มีความสุขให้กับลูกบ้าน ต้องเกิดมาจากรากฐานที่ดี คือการสร้างคุณภาพชีวิตและความสุขให้กับพนักงานทุกๆ คนก่อน
เพราะการทำงานที่ต้องใช้ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งการคิดนอกกรอบเพื่อหาสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอนั้น ต้องอาศัยสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน สร้างแรงกระตุ้นในเชิงบวก SIRI CAMPUS จึงเกิดขึ้นและเป็นออฟฟิศที่เต็มไปด้วย Energy ดีๆ พร้อมแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยมเพื่อให้ชาวแสนสิริทุกคนสามารถสร้างผลงานที่ดีและมีประสิทธิภาพ พร้อมๆ กับการมี Work-life Balance ได้
วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จัก “SIRI CAMPUS” ออฟฟิศที่เป็นมากกว่าที่ทำงาน
เพราะแรงบันดาลใจและไอเดียเกิดขึ้นได้ทุกที่
แนวคิดหลักของ SIRI CAMPUS คือ การสร้างพื้นที่ในการทำงานที่เอื้อให้ทุกคนได้มีปฏิสัมพันธ์ ได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันอย่างทั่วถึงทุกเวลา พนักงานติดต่อสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความหมายของคำว่า “CAMPUS” ที่เราหยิบมาใช้ ทั้งการออกแบบและจัดสรรพื้นที่แบบ Low Rise แทนแนวดิ่งที่ปิดกั้นให้คนไม่มีโอกาสเจอกัน
เราเน้น Social-Flow Connecting People ออฟฟิศนี้จึงไม่มีที่นั่งประจำ เพราะทุกที่เป็นแค่ Hot Seat ที่ใครอยากจะนั่งตรงไหนก็ได้ จะเดินออกกำลังไปทำงานไปบน Treadmill Desk นั่งนวดไปทำงานไปบน Osim Massage Chair ที่ร่ำลือกันว่าสบายขั้นสุด หรือนั่งชมวิวพื้นที่สีเขียวของ Sansiri Backyard นอกหน้าต่างกระจกไปทำงานไปให้ชิลแบบสุดๆ
และเรายังมี Work Anywhere Anytime ที่เปิดโอกาสให้ดีไซน์การใช้ชีวิตและเลือกสไตล์การทำงานได้ตามใจ จะพักงานไปออกกำลังกายให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มกับเทรนเนอร์ที่ฟิตเนสตอนบ่ายสองหรือสิบโมง หรือจะพักไปเล่นเกม ตีปิงปอง ไปเล่นพูลให้สมองปลอดโปร่งแล้วค่อยกลับมาทำงานต่อก็ได้
เก๋ไปอีกด้วยการนำ Smart Technology เข้ามาใช้ เพื่อให้การทำงานง่ายและสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ Smart Meeting Room ช่วยให้เราเช็คสถานะและจองห้องประชุมที่ว่างได้ และยังสามารถเตรียมห้องให้พร้อมทางออนไลน์ ประหยัดเวลาและยังประหยัดพลังงานด้วย เพราะหลังการใช้ห้องเสร็จหรือถ้ามีการจองห้องไว้แล้วไม่มา ระบบจะตัดแอร์ ปิดไฟ อัตโนมัติ เป็นออฟฟิศที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
ส่วนใครที่มีปัญหาลืมบัตรพนักงานหรือทำหายบ่อย ก็ใช้ชีวิตง่ายขึ้นเลย เพราะที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Face Scan ให้เช็คอินหรือผ่านเข้าโซนต่างๆ ได้โดยการสแกนหน้า มั่นใจได้ในระบบความปลอดภัยและยังสะดวกสบายที่ไม่ต้องพกบัตรติดตัว
ถ้าหากคอมพิวเตอร์ของใครมีปัญหาก็หอบไป IT Bar ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไอทีคอย standby แก้ปัญหาให้อยู่ตลอดเวลาได้เลย ไม่ต้องรอทำนัดหมายหรือคอยจนเซ็งกว่าจะเดินมาหาถึงที่โต๊ะทำงาน
นอกจากนี้ยังมี Amphitheatre ที่จัดโซนที่นั่งแบบขั้นบันได ไม่ว่าจะนั่งตรงไหนก็มองลงมาเห็นจอด้านล่างได้ชัดเจน ไม่ต้องคอยเอี้ยวตัวเอียงหัวหลบกันไปมาเหมือนห้องประชุมแบบเดิมๆ จึงเหมาะกับการพรีเซนต์งานมากๆ แถมบรรยากาศก็ไม่ดูเป็นทางการเคร่งเครียดจนเกินไป ทำให้เรานำเสนอไอเดียและแชร์ผลงาน ปล่อยของได้อย่างเต็มที่
ไม่ใช่แค่สุขกับการทำงาน แต่ต้องได้ใช้ชีวิต
SIRI CAMPUS เป็นออฟฟิศที่มากกว่าที่ทำงานจริงๆ เพราะได้รวมทุกสิ่งที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ชาวแสนสิริไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะร้านกาแฟดีไซน์เก๋ เสิร์ฟกาแฟดีเบเกอรี่และเพสตรี้อร่อยอย่าง Wac Cafe ที่ดีไซน์และบรรยากาศไม่น้อยหน้าใคร สาย Cafe hopping ถ่ายรูปอัพโซเชียลอวดได้สบาย แถมยังมีพนักงานเสิร์ฟที่ขยันและให้บริการแบบน่าเอ็นดูสุดๆ อย่างน้อง SANDEE เจ้าหุ่นสุดแอคทีฟที่คอยเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ทุกคนอย่างไม่เหน็ดไม่เหนื่อย มีความสุขกับการทำงานของตัวเองอยู่ตลอดเวลาไม่แพ้พนักงานแสนสิริเลยทีเดียว
พูดถึงของว่างและเครื่องดื่มไปแล้ว จะไม่พูดถึงอาหารหลักอย่างมื้อกลางวันได้ยังไง เพราะแคนทีนที่นี่ก็ไม่ธรรมดา บริหารโดย Sodexo บริษัทระดับโลกที่ดูแลแคนทีนให้กับโรงพยาบาลชื่อดังต่างๆ และดูแลคุณภาพของอาหารที่ดิสนีย์แลนด์ ตามคอนเซปต์ Well-Being ที่จัดเต็ม แถมยังมีผลผลิตสดใหม่ไร้สารจาก Sansiri Backyard ควบคุมคุณภาพการผลิตโดยไร่กำนันจุลมาให้เลือกใช้ เมนูอาหารที่นี่จึงทั้งหลากหลายและคิดมาแล้วว่าดีต่อสุขภาพ การันตีว่าพนักงานที่นี่จะได้ทานอาหารดีๆ ราคามิตรภาพแน่นอน
แสนสิริไม่ได้ให้ความสำคัญแค่เรื่องอาหารการกินของพนักงาน แต่ยังเน้นเรื่องการดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายและคลายเครียดด้วย ซึ่งที่ SIRI CAMPUS ก็มีฟิตเนสให้ได้ใช้งานกัน แต่ที่ต้องอวดคือ คุณภาพฟิตเนสของที่นี่อยู่ระดับเดียวกับฟิตเนสเวิลด์คลาสทั้งหลายเลย ทั้งเทรนเนอร์และอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ ก็มีให้พร้อม คอร์สออกกำลังต่างๆ ก็จัดมาเต็ม เพื่อให้ได้ทั้งหุ่นสวย สุขภาพดี และได้มีสังคมกับเพื่อนๆ หน้าใหม่
และไม่ใช่แค่เหล่าพนักงานที่ได้รับการดูแลอย่างดี สมาชิกในครอบครัวที่รวมไปถึงเพื่อนรักสี่ขา ก็สามารถมาใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันได้ที่นี่ด้วยเหมือนกัน เพราะมี Dog Garden เป็น Pet Friendly Zone จะว่ายน้ำในสระ จะวิ่งเล่น จะเดินเล่น ก็ทำได้ ที่ขับถ่ายก็มีจัดให้เป็นสัดส่วน แถมมีโอกาสให้ออกสังคม มีชมรมให้ได้พาน้องหมามาพบปะเพื่อนใหม่ มี consult มาให้คำปรึกษาว่าสุนัขแต่ละพันธุ์ควรจะได้รับการดูแลที่ดีแตกต่างกันไปอย่างไร สำหรับ working mom ก็มีมุม Breastfeeding room เป็นส่วนตัวเตรียมไว้เพื่อให้คุณแม่ใช้สำหรับการให้นม เลิกงานแล้วยังไปจับจ่ายซื้อผักผลไม้ ไข่ไก่ ผลผลิตจากฟาร์มของ Sansiri Backyard กลับไปทำอาหารให้คนที่รักได้อีก เป็นออฟฟิศที่ส่งเสริม Work-Life Balanceใส่ใจทุกด้านจริงๆ
ให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาความเครียด
นอกจากจะใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานแล้ว เราก็ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ทุกรายละเอียดผ่านการคิดมาเพื่อความสุขอย่างยั่งยืน ทั้งการริเริ่มระบบจัดการแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพ การลดการใช้พลังงานที่เกินความจำเป็น และการใช้พลังงานทดแทนจากธรรมชาติ ทั้ง Wind Turbine พลังงานลม จากกังหันลม Solarcell พลังงานแสงอาทิตย์ และ Omniflow ที่ได้จากการสะสมพลังงานสายลมและแสงแดด
สอดแทรกพื้นที่สีเขียวเข้ามาระหว่างอาคารและในทุกมุมเพื่อให้ชีวิตได้ใกล้ชิดและรับความสดชื่นผ่อนคลายจากธรรมชาติให้มากที่สุด เมื่อความสุขเป็นตัวขับเคลื่อนแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่างครบวงจร ทั้งความสุขจากอิสระในการทำงานและใชัชีวิต ความสุขกับการได้ใช้เวลากับคนที่รัก ความสุขที่ได้ดูแลสิ่งแวดล้อม ความสุขในการทำงานจากพนักงานของเราส่งต่อถึงลูกบ้านคนสำคัญของแสนสิริทุกคน เมื่อพลังงานความสุขส่งต่อกันได้ไปมา ความสุขจึงกระจายตัวไปอยู่รอบๆ ตัวเราได้ในที่สุด
เพราะเวลาของคนวัยทำงานส่วนใหญ่ฝากไว้กับที่ทำงาน ดังนั้นการสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ทำงานให้ดีนั้นส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความสุขของพนักงานอย่างมาก และยังส่งผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของผลงานอีกด้วย
แล้วรู้หรือยังว่าทำไมชาวแสนสิริถึงไม่มีใครเป็นออฟฟิศซินโดรมและโรคเกลียดวันจันทร์กันสักคน